วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2556

Pieta Rondanini

            Michelangelo เขาเริ่มสร้างผลงานนี้ขึ้นในปี ค.ศ. 1552 หลังจากนั้นไม่นานก็ได้ถูกวางทิ้งไว้ จนสุดท้ายเขาก็ได้กลับมาสร้างสรรค์ผลงานก่อนเค้าจะเสียชีวิตเพียงแค่ 6 วัน หลังจากนั้นผลงานของเค้าก็มีการหยิบยกขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญเป็นคนนำมาเผยแพร่ ทำให้ผลงานดังกล่าว กลายเป็นที่รู้จักต่อประชาชน



           Pieta Rondanini ได้มีส่วนประกอบระหว่าง 2 รูปคือ เป็นรูปของชายและหญิง โดยที่มีความเชื่อว่าผู้ชายในประติมากรรมนั้นคือ พระเยซู และผู้หญิงคือนางมาดอนน่า ซึ่งเป็นประติมากรรมที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี โดยผลงานนั้นแทบจะยังไม่ได้เริ่มด้วยซ้ำ ประติมากรรมประกอบเพียงแค่ขาขวาของพระเยซูและต้นขาซ้ายของนางมาดอนน่า และมีใบหน้าของทั้งสองเพียงเท่านั้น
ประติมากรรมดังกล่าวนี้ยังไม่เป็นที่ยอมรับของเหล่าศิลปินต่างๆ เพราะประติมากรรมดังกล่าวยังดูขัดแย้งกับภาพวาดที่เหล่าศิลปินต่างๆนั้นได้ศึกษามา


ศิลปิน               Michelangelo


ปี                      1564


ชนิด                 หินอ่อน


ขนาด               195 ซม. (77นิ้ว)


สถานที่             Castello Sforzesco , Milan
 ประติมากรรมดังกล่าวได้มีการก่อสร้างโดยประกอบด้วยหินอ่อนและหิน มีลักษณะเป็นเกลียวตั้งฉากกับฐานรองรับประติมากรรม โดยสื่อถึงความสงบ ปราศจากความรุนแรง ให้ความสง่างามของรูปปั้นแม้จะมองเพียงแค่ด้านใดด้านหนึ่งโดย Einem ได้กล่าวไว้ว่า จาก ST.Matthew เป็นต้นไปนี้ก็ยังอยู่ในกรอบที่เรียกว่าโลก เราจะเห็นไดว่ามีข้อจำกัดของสิ่งแวดล้อม เพราะฉะนั้นศิลปะก็มีข้อจำกัดเฉกเช่นเดียวกัน
ด้านหลังของประติมากรรมนั้นยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี ในรูปปั้นส่วนของนางมาดอนน่าอาจจะตีความหมายออกมาได้ว่า ได้มาการสนับสนุนศาสนาคริสต์เกิดขึ้นหรือว่านางเองอาจจะได้รับการสนับสนุนเองก็เป็นได้ ใบหน้าของทั้งสองดูเงียบสงบ แต่ทั้งสองนั้นเหมือนกำลังเอื้อมคว้าหาอะไรบางสิ่งอยู่ ซึ่งในผลงานประติมากรรมนั้นหากมองให้ลึกซึ้งจะเห็นถึงความอ่อนโยนของนางมาดอนน่าและความรักจากพระเยซู
โดยกุญแจสำคัญของประติมากรรมชิ้นนี้ คือ การมองเห็น ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของพื้นผิวของหิน ซึ่งสามารถบ่งบอกถึงความรู้สึกได้ เพราะMichelangelo เองนั้นก็ได้มีกรอบในการสร้างสรรค์ผลงานของตัวเอง แต่เค้ากลับมองข้ามกรอบการสร้างสรรค์ผลงานที่ผ่านมาของเค้าทั้งหมด เพื่อสร้างสรรค์ประติมากรรมดังกล่าวที่เกิดจากสะสมความหวัง การต่อสู้ดิ้นรนที่ปฏิเสธการสนับสนุนการทรมานต่อพระเยซู การสร้างสรรค์ผลงานดังกล่าวนี้จึงสื่อได้ว่า Michelangelo  นั้นได้เกิดความหวังต่อพระเจ้า
แต่ก็ไม่สามารถบ่งบอกได้ว่าความสงบที่เกิดจากสายตาของนางมาดอนน่านั้นจะเป็นจริง นั่นแสดงถึงอารมณ์ของศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานมากกว่า ความสงบ อารมณ์ เป็นความเชื่อของ Michelangelo มากกว่ามีความอ่อนแอในผลงาน
 ST.Peter pieta จะไม่สมบูรณ์แบบเฉกเช่นเดียวกับ Rondanini Pieta แน่นอนหากเป็นการแสดงออกในฐานะศิลปิล ความตั้งใจ ความสมบูรณ์แบบและบุคลิกของ Michelangelo  ที่เข้านั้นได้สร้าง Rondanini Pieta ขึ้นจากจินตนาการหากใช่เพียงแค่แกะสลักหินเพียงเท่านั้น จึงเป็นผลงานที่ทำให้เข้าใจในตัวของศิลปินมากขึ้น
การสมบูรณ์หรือไม่สมบูรณ์ของตัวศิลปินนั้นตัวของศิลปินเองเป็นคนรู้ดี ผลงาน Rondanini Pieta ของ Michelangelo ถูกกล่าวว่า จิตวิญญาณจะเกิดก็ต่อเมื่อตัวตนที่แท้จริงนั้นถูกเปิดเผย การสร้างสรรค์ผลงานครั้งนี้ถือเป็นการรวมตัวระหว่างจินตนาการกับประติมากรรมได้อย่างลงตัวดังบทความที่ว่า
"In this condition the Pieta was an utterly ruined block. Yet Michelangelo, in a wild despairing effort, tries again to make it express his ultimate artistic vision; with a few blows of the hammer and chisel he strikes once more at the hollowed-out marble before him, (attempting to give) life to nose, eyes, and mouth." ของ Dagobert Frey
             ในช่วงต้นของการสร้างสรรค์ผลงานของ Michelangelo นั้นเขาเองจะต้องต่อสู้เพื่อความสมบูรณ์ของผลงาน เขาเองจะต้องตระหนักถึงคุณสมบัติของศิลปิน แม้เขาเองจะปลดปล่อยอุดมคติเข้ามาบดบังผลงาน แต่ในช่วงสุดท้ายของชีวิต เขาก็สามารถกลับมาอยู่บนผลงานศิลปะที่ไม่สมบูรณ์แบบของเขาเอง ซึ่งมันอาจจะทำให้เขาเองถูกมองว่าล้มเหลว แต่ด้วยความสามรถของเขาเองก็ถือเป็นผลงานที่แสดงออกถึงความสง่างามที่แฝงไปด้วยความเจ็บปวดได้ดี

2 ความคิดเห็น: